MasterCard สร้าง metaverse ของตัวเอง? เอกสารยื่นขอสิทธิบัตรหมายเลข 97346112 ระบุว่า MasterCard มีแผนที่จะสร้าง metaverse ของตัวเอง โดยสโคปของ metaverse นั้นมีทั้งตลาดออนไลน์ (marketplace) ซอฟต์แวร์ (full-fledged software) รวมไปถึงการเป็นเจ้าของชุมชนออนไลน์ (online community)
โลโก้และสโลแกนของ MasterCard ใน metaverse: เอกสารยื่นขอสิทธิบัตรหมายเลข 97346083 และ USPTO กล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้โลโก้สีแดงและเหลืองอันโด่งดังของ MasterCard ในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับงานศิลปะเสมือนจริง (virtual imagery) ตลอดจนสโลแกน "Priceless" ในผลิตภัณฑ์ NFT ที่มุ่งเน้นเรื่องการจัดการด้านเพลงและเสียง (audio distribution)
กิจกรรมใน metaverse ของ MasterCard ในฐานะผู้ให้บริการด้านการศึกษา: เอกสารยื่นขอสิทธิบัตรหมายเลข 97346012 จะมีการนำโลโก้และสโลแกนของ MasterCard เพื่อนำไปใช้เกี่ยวกับ “ความบันเทิงและบริการทางการศึกษา[...]”
รายละเอียดเกี่ยวกับตลาดออนไลน์ NFT ของ MasterCard: รายละเอียดที่น่าสนใจที่สุดจากเอกสารยื่นขอสิทธิบัตรหมายเลข 97346029: "การส่งเสริมสินค้าและบริการของผู้อื่นโดยใช้คูปอง ส่วนลด โฆษณา รางวัล สิ่งจูงใจ และโปรแกรมความภักดีของลูกค้าต่อแบรนด์ (loyalty program) ใน metaverse และโลกเสมือนจริงอื่นๆ"
สิทธิบัตร crypto ที่ MasterCard ได้รับการอนุมัติล่าสุด:
ระบบการตรวจสอบบัญชี (multi-account checking) โดยใช้ blockchain ซึ่งได้รับการอนุมัติเมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา
ระบบตรวจสอบผู้ใช้ผ่าน blockchain และการตรวจสอบข้อร้องเรียนจากสถานที่ (location-compliant checking) ได้รับการอนุมัติเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา MasterCard ได้กลายเป็นหัวข้อข่าวไปทั่วโลก crypto และสื่อกระแสหลักเนื่องจากการเข้าการจดทะเบียนสิทธิบัตรใหม่จำนวน 15 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตนกับสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา (USPTO)
แม้ว่าการจดทะเบียนสิทธิบัตรจะเป็นเรื่องปกติสำหรับบริษัททั่วไป นับประสาบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง MasterCard หากแต่ในครั้งนี้สิทธิบัตรที่ทาง MasterCard เข้าจดทะเบียนล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับ NFTs และบริการ metaverse ทั้งหมด
ในบทความนี้จะมุ่งเน้นการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิบัตรของ MasterCard ที่เกี่ยวข้องกับ crypto และความสำคัญของ crypto ในโลกอนาคตที่มีต่อธุรกิจของ MasterCard
MasterCard สร้าง metaverse ของตัวเอง?
เอกสารยื่นขอสิทธิบัตรหมายเลข 97346112 ซึ่งนับเป็นเอกสารยื่นขอสิทธิบัตรต่อ USPTO ที่มีความน่าสนใจและน่าติดตามที่สุด ระบุว่าทาง MasterCard มีความพยายามที่จะสร้าง metaverse ของตัวเอง หากคุณไม่เชื่อ? รายละเอียดดังต่อไปนี้ระบุถึงข้อความการยื่นขอสิทธิบัตรต่อ UPSTO ซึ่งสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ทางการของ UPSTO ได้ให้รายละเอียดว่า
“บริการด้านความบันเทิงและบริการด้านการศึกษา กล่าวคือ ให้บริการสภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกันได้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านนันทนาการ การศึกษา เครือข่าย การช็อปปิ้ง การพักผ่อนหรือความบันเทิง การสร้างและโฮสต์ชุมชนออนไลน์สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล non-fungible tokens (NFTs) metaverse และโลกเสมือนจริงอื่นๆ ให้บริการซอฟต์แวร์ออนไลน์ที่ไม่สามารถดาวน์โหลดได้สำหรับการสร้าง การผลิต และการแก้ไข non-fungible tokens (NFTs) การออกแบบและตัวละคร digital animated และ non-animated รวมถึง avatar และสินค้าเสมือนจริง สำหรับการเข้าถึงและใช้ใน metaverse และโลกเสมือนจริงอื่นๆ”
รายละเอียดข้างต้นนับเป็นข้อมูลที่แม้จะยาวแต่มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นการแสดงความต้องการของ MasterCard ในการสร้าง metaverse ที่ครอบคลุมตั้งแต่ความบันเทิงและการศึกษาไปจนถึงตลาดออนไลน์ จนกระทั่ง Software บน Browser ของตัวเอง ดูเหมือนว่า MasterCard จะกระตือรือร้นที่จะมุ่งความสนใจไปที่ metaverse ของตัวเองเป็นอันดับแรก และดูเหมือนว่า Decentraland, Sandbox และผู้ให้บริการอื่นๆ อาจต้องพบกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งในอนาคต
โลโก้และสโลแกนของ MasterCard ใน metaverse:
โลโก้ MasterCard อาจปรากฏขึ้นในส่วนใดส่วนหนึ่งของภาพนี้สำหรับการทำธุรกรรม
ที่มา: Wired
เอกสารยื่นขอสิทธิบัตรหมายเลข 97346083 และ USPTO ให้รายละเอียดการใช้โลโก้สีแดงและสีเหลืองอันโด่งดังของ MasterCard ใน “การดำเนินการใช้บัตรเครดิตเสมือนจริง บัตรเดบิตเสมือนจริง บัตรเติมเงินเสมือนจริง และธุรกรรมบัตรชำระเงินเสมือนจริงใน metaverse และโลกเสมือนอื่น ๆ [...]” เพราะจะทำให้สามารถแสดงตัวตนของผู้ใช้บริการของ MasterCard ได้อย่างชัดเจน เนื่องจากโลโก้ของ MasterCard เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายอยู่แล้ว ลองนึกถึงสถานการณ์ที่ผู้ใช้ metaverses เช่น Decentraland และ Sandbox ทำการซื้อผลิตภัณฑ์ผ่าน MasterCard เมื่อมีการใช้งานเกิดขึ้นโลโก้ของ MasterCard จะปรากฏขึ้นแบบ 3 มิติระหว่างการแลกเปลี่ยนซื้อขายเพื่อแสดงว่าการทำธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์แล้ว สวยเฉียบ!
สโลแกน “Priceless” ของ MasterCard
เอกสารยื่นขอสิทธิบัตรหมายเลข 97346060 กล่าวถึงสโลแกน "Priceless" ของ MasterCard ซึ่งเริ่มใช้ในบริษัทมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2547 ด้วยสิทธิบัตรนี้ บริษัทต้องการนำเสนอสโลแกนใน "ไฟล์เพลงที่ดาวน์โหลดได้ซึ่งรับรองโดย non-fungible tokens (NFT) ; ไฟล์มัลติมีเดียที่สามารถดาวน์โหลดได้ประกอบด้วย artwork ข้อความ เสียง และวิดีโอที่รับรองโดย non-fungible tokens (NFTs)”
คำถามหลักในส่วนนี้คือ เหตุใดจึงใช้แค่สโลแกนแต่ไม่รวมถึงโลโก้ด้วย และถ้าต้องการโฟกัสที่ไฟล์เสียง แสดงว่าสโลแกนจะมาในรูปของโน้ตหรือเปล่า? แม้ว่าความเป็นไปได้จะไม่มีที่สิ้นสุดเนื่องจากยังไม่มีข้อสรุปแถลงออกมา แต่ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะนึกภาพการแลกเปลี่ยน NFT ที่คำว่า "Priceless" ปรากฏแว๊บขึ้นมาเพื่อบ่งบอกถึงความเป็น MasterCard หากแต่เหตุที่ MasterCard ไม่ใส่โลโก้นั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่
MasterCard และ metaverse ในฐานะผู้ให้บริการด้านการศึกษา
การนำเสนอในรูปแบบเหล่านี้ บนแพลตฟอร์ม metaverse ที่คุณชื่นชอบ เร็วๆนี้
ที่มา: European Sponsorship Association
เอกสารยื่นขอสิทธิบัตรหมายเลข 97346012 ระบุข้อมูลว่าจะต้องใช้โลโก้และภาพสโลแกนของ MasterCard สำหรับ “บริการด้านความบันเทิงและการศึกษา กล่าวคือ การให้ข้อมูลความบันเทิงและการศึกษาในด้านกิจกรรมทางวัฒนธรรม คอนเสิร์ต การแข่งขันกีฬา เทศกาล และการแสดงรางวัลในเมตาเวิร์สและโลกดิจิทัลอื่นๆ” ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเอกสารยื่นขอสิทธิบัตรที่นำเสนอข้อมูลที่ตรงไปตรงมาที่สุด จากประวัติของ MasterCard ในฐานะผู้สนับสนุนงานอีเวนต์ที่หลากหลายที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจที่บริษัทกำลังมองหาวิธีที่จะเข้าร่วมกิจกรรม metaverse
สิ่งที่ทำให้สิทธิบัตรนี้น่าสนใจยิ่งขึ้นคือความต้องการของ MasterCard ในการเป็นผู้ให้บริการเนื้อหาด้านการศึกษาในโลกดิจิทัล แม้คำพูดนี้อาจเป็นเพียงการใช้ถ้อยคำเชิงกลยุทธ์เพื่อบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของการนำโลโก้และสโลแกนไปใช้ทั้งหมด หรือ MasterCard อาจกำลังเตรียมโครงการการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับ NFT และ metaverse อยู่จริงหรือไม่ เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้
รายละเอียดเกี่ยวกับตลาด NFT ของ MasterCard
แม้ว่าแนวคิดของตลาด metaverse จะได้รับการกล่าวถึงก่อนหน้านี้ในเอกสารยื่นขอสิทธิบัตรของ MasterCard แล้ว แต่เอกสารยื่นขอสิทธิบัตรหมายเลข 97346029 นั้นได้กล่าวถึงข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดนี้ MasterCard นั้นระบุว่าต้องการลงทะเบียน NFT และตลาด metaverse สำหรับ "ผู้ซื้อและผู้ขายสินค้าดิจิทัลที่ดาวน์โหลดได้และสื่อที่รับรองโดย non-fungible tokens (NFTs); ส่งเสริมสินค้าและบริการของผู้อื่นโดยใช้คูปอง ส่วนลด โฆษณา รางวัล สิ่งจูงใจ และโปรแกรมความภักดีของลูกค้าต่อแบรนด์ (loyalty program) ใน metaverse และโลกเสมือนจริงอื่นๆ”
เมื่อพิจารณาจากรายละเอียดเหล่านี้ MasterCard จึงไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆเลยเมื่อพูดถึงแนวคิดในการใช้ตลาด NFT ของตน แนวคิดที่มีการลงทะเบียนสิทธิบัตร การใช้คูปอง ส่วนลด และความภักดีของลูกค้าต่อแบรนด์ (loyalty program) ในรูปแบบ NFT อาจเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในโลกของ crypto นอกจากนี้ยังทำให้เกิดคำถามว่าบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของ MasterCard เองจะมีรูปร่างเหมือน NFT token สำหรับการซื้อขายในโลกเสมือนจริงหรือไม่ ในเมื่อยังไม่มีข้อสรุปออกมา ทำให้เราได้แต่รอดูว่าบริษัทจะทำอะไรต่อไปในอนาคต
สิทธิบัตรที่เกี่ยวกับ crypto ที่ได้รับการอนุมัติของ Mastercard
แม้ว่าบทความนี้จะเน้นไปที่เนื้อหาการยื่นขอจดสิทธิบัตรล่าสุด แต่ MasterCard เองก็เพิ่งได้รับการอนุมัติจดสิทธิบัตรจำนวนหนึ่งจาก USPTO ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา
สิทธิบัตรหมายเลข 11308460: ระบบการตรวจสอบบัญชี (multi-account checking) โดยใช้ blockchain
ต้องขอบคุณสิทธิบัตรล่าสุดที่ได้รับเมื่อวันที่ 19 เมษายน ปัจจุบัน MasterCard มีสิทธิ์ในระบบการตรวจสอบบัญชีที่ใช้ blockchain เอกสิทธิ์เฉพาะบุคคล รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบนี้ยังไม่ได้รับการเปิดเผย เนื่องจากบริษัทเพิ่งได้รับสิทธิบัตรหลังจากยื่นขอรับสิทธิบัตรเมื่อเกือบ 4 ปีที่แล้วในเดือนกันยายน พ.ศ. 2561
สิทธิบัตรหมายเลข 11301459: วิธีการและระบบตรวจสอบผู้ใช้ผ่าน blockchain และการตรวจสอบข้อร้องเรียนจากสถานที่ (location-compliant checking)
เช่นเดียวกับสิทธิบัตรก่อนหน้านี้ ปัจจุบัน MasterCard เป็นเจ้าของสิทธิ์ในระบบการประมวลผล blockchain ที่อิงตามการปฏิบัติตามข้อกำหนดของท้องถิ่นนั้นๆ โดยได้รับการอนุมัติเมื่อวันที่ 14 เมษายน แม้จะยังไม่รู้ว่าระบบดังกล่าวจะเข้ากับแอปพลิเคชันในปัจจุบันอย่างไร แต่ทาง MasterCard ก็กำลังจัดการเรื่องการรวมกันระหว่างการเข้าถึง blockchain และกระบวนการตรวจสอบสิทธิ์ตามพื้นที่ทางภูมิศาสตร์
ผู้เขียน: Gate.io นักวิจัย: Victor Bastos
-บทความนี้แสดงความเห็นของผู้วิจัยเท่านั้น และไม่ถือเป็นข้อเสนอแนะในการลงทุนใดๆ
-Gate.io ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในบทความนี้ อนุญาตให้โพสต์บทความซ้ำโดยอ้างอิงถึง Gate.io ทั้งนี้ Gate.io จะดำเนินการทางกฎหมายสำหรับการละเมิดลิขสิทธิ์ทุกกรณี