Terra: ผู้นำด้าน Algorithmic Stablecoin

สรุป

---

1. กลไกการปรับราคาของ Stablecoin Terra มีความเกี่ยวข้องกับการทำอาร์บิทราจที่ขับเคลื่อนโดย LUNA
2. การทำอาร์บิทราจที่เกิดขึ้นเองของผู้ใช้จะปรับอุปทานของ UST และนำราคา UST กลับไปที่ราคา Anchor 1$
3. เนื่องจากการผลิต UST บน Terra จะใช้มูลค่าที่สอดคล้องกันของ LUNA การเพิ่มมูลค่าตามราคาตลาดทั้งหมดของ UST จะทำให้อุปทานของ LUNA ลดลงอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้ LUNA เกิดภาวะฝืดเคือง
4. เมื่อแลกเปลี่ยน LUNA เป็นเหรียญ stablecoin บน Terra ผู้ใช้จะต้องจ่าย "seigniorage" จำนวนหนึ่ง ส่วนหนึ่งของ "seigniorage" จะให้รางวัลแก่ผู้ที่ฝากเหรียญ LUNA และส่วนที่เหลือจะเข้าสู่คลังสมบัติ Terra
5. หลังจากที่ราคา LUNA พุ่งสูงขึ้น ราคา Terra นั้นจะมั่นคงหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการเติบโตในระยะยาว

LUNA ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสินทรัพย์คริปโตที่น่าจับตามองมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมา ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ราคาของ LUNA เพิ่มขึ้นจากประมาณ 50 ดอลลาร์เป็นสูงสุด 95 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า และมูลค่าตามราคาตลาดยังสูงถึง 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแซงหน้า Solana, Cardano และ Avalanche Avalanche เป็นเครือข่ายสาธารณะที่เกิดขึ้นใหม่และอยู่ในอันดับที่ 7 ของสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด การเติบโตของ LUNA นั้นควบคู่ไปกับการเติบโตของ Terra ซึ่งเป็นโครงการ Algorithmic Stablecoin

Terra คืออะไร

---

LUNA เป็นโทเค็นดั้งเดิมของ Terra และยังเป็นโทเค็นการกำกับดูแลและโทเค็น PoS บน Terra Terra ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 และกลายเป็นเครือข่ายสาธารณะ Layer 1 ที่สำคัญที่สุดในระบบนิเวศของ Cosmos ซึ่งเป็นโครงการ Algorithmic Stablecoin แบบกระจายอำนาจ Terra อ้างอิงสกุลเงิน fiat ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก เช่น USD, EUR, CNY, KRW และ JPY และเปิดตัว stablecoin ที่สอดคล้องกัน ซึ่ง TerraUSD (UST) ที่ใหญ่ที่สุดมีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 15 ในบรรดาสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด โดยแซงหน้า DAI Stablecoin ที่รู้จักกันดีบน Ethereum DAI อยู่ในอันดับที่ 4 ในบรรดา stablecoin ทั้งหมดรองจาก USDT, USDC และ BUSD เท่านั้น

นอกเหนือจากการผูกเหรียญ stablecoin กับสกุลเงินที่ถูกกฎหมายของประเทศต่างๆ แล้ว Terra ยังมีความแตกต่างจากเหรียญ stablecoin แบบรวมศูนย์ เช่น USDT ตามทฤษฎีแล้ว การออก USDT แต่ละครั้งจำเป็นต้องมีสินทรัพย์มูลค่า 1$ เพื่อค้ำไว้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการดำเนินการ TEDA นั้นไม่โปร่งใสมาเป็นเวลานาน ผู้คนมักตั้งคำถามว่า USDT มีทุนสำรองเป็น 100% ของ USD หรือไม่ แต่เหรียญ stablecoin ต่างๆ ที่ออกโดย Terra ไม่จำเป็นต้องมีทุนสำรอง Stablecoins เหล่านี้ไม่ต้องการสินทรัพย์จริงมาค้ำประกัน แต่พวกมันจะปรับอุปสงค์และอุปทานผ่านอัลกอริธึม เพื่อให้ค่านั้นผูกอยู่กับประเภทของสกุลเงิน fiat ที่สอดคล้องกันเสมอ


กลไกการปรับราคาของ Terra Stablecoin มีความเกี่ยวข้องกับการทำอาร์บิทราจที่ขับเคลื่อนโดย LUNA ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยน LUNA มูลค่า 1$ เป็น 1 UST ได้ตลอดเวลาบน Terra หรือแลกเปลี่ยน 1 UST เป็น LUNA ที่มีมูลค่า 1 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อใดก็ได้ เมื่อราคา UST มากกว่า 1ดอลลาร์สหรัฐ ผู้ใช้มักจะแลกเปลี่ยน LUNA เป็น UST มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มอุปทานของ UST ในตลาดและลดราคา UST ในภายหลัง เมื่อราคา UST น้อยกว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐ ผู้ใช้มักจะแลกเปลี่ยน UST เป็น LUNA มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการลดอุปทานของ UST ในตลาดและเพิ่มราคาของ UST ในภายหลัง ไม่ว่าราคาของ UST จะสูงหรือต่ำ พฤติกรรมการทำอาร์บิทราจที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติของผู้ใช้จะปรับอุปทานของ UST และนำราคา UST กลับมาที่ราคา 1ดอลลาร์สหรัฐเสมอ ทำให้กลไกการทำงานของ Stablecoin Terra นี้มีความคล้ายคลึงกับกลไกของธนาคารกลางในโลกแห่งความเป็นจริงในระดับหนึ่ง

การวิเคราะห์มูลค่า LUNA

---

เนื่องจากการผลิต UST บน Terra จะใช้มูลค่าที่สอดคล้องกันของ LUNA การเพิ่มมูลค่าตามราคาตลาดทั้งหมดของ UST จะทำให้อุปทานของ LUNA ลดลงอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้ LUNA เกิดภาวะฝืดเคือง
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ได้นำไปสู่ความวุ่นวายในตลาดคริปโต ส่งผลให้มีความต้องการ Stablecoin เพิ่มขึ้น ในเดือนก่อนหน้า ค่าพรีเมียมของ USDT สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอุปทานทั้งหมดของ UST ก็เพิ่มขึ้นจาก 11.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเป็น 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้ราคา LUNA สูงขึ้น


นอกเหนือจากการเข้าร่วมในการกำกับดูแลแบบ on-chain ของ Terra โดยการลงคะแนน ผู้ถือ LUNA ยังสามารถรับรางวัลในขณะที่ฝากเหรียญเอาไว้บนเครือข่าย LUNA อีกด้วย รางวัลการฝากเหรียญมาจากค่าธรรมเนียมการจัดการเมื่อมีการทำสัญญาอัจฉริยะของ Terra เมื่อผู้ใช้แลกเปลี่ยน LUNA เป็น stablecoins บน Terra พวกเขาจำเป็นต้องจ่าย "seigniorage" จำนวนหนึ่ง ส่วนหนึ่งของ "seigniorage" จะให้เป็นรางวัลแก่ผู้ฝาก LUNA และส่วนที่เหลือจะเข้าสู่คลังสมบัติ Terra

Terra สามารถใช้เงินในคลังผ่านการลงคะแนนเสียงเพื่อให้เงินทุนกับโครงการอื่นๆ ในระบบนิเวศของ Terra ซึ่งเป็นกระบวนการที่คล้ายกับนโยบายการคลังของรัฐบาลในโลกแห่งความเป็นจริง

นิเวศวิทยาของ Terra คืออะไร

---

การเติบโตที่แข็งแกร่งของ Terra นั้นมาจากระบบนิเวศที่มีคุณภาพ นอกเหนือจาก Algorithmic Stablecoins แล้ว DApp ซึ่งเป็นโปรโตคอลสำหรับกู้ยืมแบบกระจายอำนาจ Anchor Protocol ที่มีจำนวนเงินจำนำสูงสุดบน Terra มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับผลตอบแทนจากเงินฝากที่สูงขึ้นและมีเสถียรภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีโครงการที่ยอดเยี่ยม เช่น Mirror ซึ่งเป็นโปรโตคอลสินทรัพย์สังเคราะห์ในระบบนิเวศ Terra ยังร่วมมือกับโปรแกรมการชำระเงิน Chai ในเกาหลีใต้แบบออฟไลน์ ชาวเกาหลีมากกว่า 3% ใช้ Chai ในการชำระเงิน


Algorithmic Stablecoin เป็นหนึ่งในโครงการที่สำคัญที่สุดในโลกคริปโตในปี 2022 ในระบบเศรษฐกิจโทเค็น Terra มีการออกแบบกลไกที่ค่อนข้างแปลกใหม่ซึ่งจำลองธนาคารกลางในโลกแห่งความเป็นจริง กลไกนี้สามารถรักษาอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราให้คงที่ผ่านนโยบายการเงินและการคลัง และส่งเสริม DApps ในระบบนิเวศ การเติบโตของ DApp ทำให้ความต้องการ UST เพิ่มขึ้นและมูลค่าของ LUNA ก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง

หลังจากที่ราคา LUNA พุ่งสูงขึ้น ราคา Terra นั้นจะมั่นคงหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการเติบโตในระยะยาว บางทีการพัฒนาระบบนิเวศในระยะยาวเท่านั้นที่สามารถสนับสนุน LUNA ได้ในระยะยาว ดังนั้นให้เรารอดูว่าระบบนิเวศของ Terra จะเติบโตได้ไกลแค่ไหน



ผู้เขียน: Gate.io นักสังเกตการณ์: Ashley H. ผู้แปล: Cedar W.
-บทความนี้แสดงความเห็นของผู้วิจัยเท่านั้น และไม่ถือเป็นข้อเสนอแนะในการลงทุนใดๆ
-Gate.io ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในบทความนี้ อนุญาตให้โพสต์บทความซ้ำโดยอ้างอิงถึง Gate.io ทั้งนี้ Gate.io จะดำเนินการทางกฎหมายสำหรับการละเมิดลิขสิทธิ์ทุกกรณี