สกุลเงินดิจิทัลโทเค็นตำแหน่งล็อคอัพโดยความเชื่อทางการณ์เป็นล่อลวง

ผู้เขียน: Christopher Goes ที่มา: coindesk แปลโดย: ชั้นเงิน, ทองคำเฟื่อง

ในขณะนี้โมเดลการแจกจ่ายโทเค็นที่เป็นที่นิยมในโดเมนการเข้ารหัสคือโมเดล 'FDV ที่มีปริมาณหุ้นที่หcircumflexใต่น้อยและมูลค่าเต็มปรับลดสูง' ตามโมเดลนี้เมื่อโครงการถูกเริ่มต้นจำนวนโทเค็นที่หcircumflexมีจำหน่ายบนตลาดเพียงเล็กน้อย และจำนวนโทเค็นที่มากกว่านั้นถูกล็อคอยู่โดยทั่วไปจะถูกปลดล็อคเป็นลำดับเป็นระยะเวลาหนึ่งปี ประการโทเค็นจำนวนน้อยนี้มักมาพร้อมกับมูลค่าเต็มปรับลดสูง และอาจถูกออกแบบขึ้นเพื่อส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าดังกล่าว ตามการศึกษาของ CoinGecko โทเค็นที่เป็นที่นิยมสูงสุดในโดเมนนี้ ร้อยละเกือบสี่จากนั้นมาจากโมเดลปริมาณหcircumflexที่หcircumflexต่ำ โดยเร็ว โครงการที่สำคัญในช่วงเวลาไม่นานนี้ใช้โมเดลดังกล่าวได้แก่ Starknet、Aptos、Arbitrum、Optimism、Celestia และ Worldcoin (ณ ขณะที่บทความนี้เขียน จำนวนที่ยิ่งใหญ่ถึง 95.7% ยังคงอยู่ในสถานะล็อค)

รุ่นนี้ผิดพื้นฐาน การ จํากัด การไหลเวียนของโทเค็นบิดเบือนสัญญาณตลาดและทําให้ผู้เข้าร่วมเครือข่ายในปัจจุบันและที่มีศักยภาพเข้าใจผิดซึ่งพึ่งพาสัญญาณเหล่านี้ในการตัดสินใจ รูปแบบ "สภาพคล่องต่ํา FDV สูง" ได้นําไปสู่สถานการณ์ที่ศักยภาพรายได้ของโครงการใหม่ส่วนใหญ่ถูกจับโดยนักลงทุนเอกชนในขณะที่ตลาดสาธารณะมีประโยชน์เพียงเล็กน้อย ในที่สุดโมเดลการออกโทเค็นนี้ใช้ตัวชี้วัดระยะสั้นโดยเสียค่าใช้จ่ายเพื่อความยั่งยืนในระยะยาวและความไว้วางใจของสาธารณชน

บทความวิกฤตของ “ระยะเวลาการมีสิทธิ์” ของสกุลเงินดิจิทัล

ในโลกของสกุลเงินดิจิทัล คำว่า "ทยอยให้ตามเวลา期" แทบไม่มีความคล้ายคลึงกับกลไก "ทยอยให้ตามเวลา" ในโลก TradFi ที่แตกต่างกันอย่างมาก กลไก "ทยอยให้ตามเวลา" ในโลก TradFi (เช่น หน่วยหุ้นที่ถูกจำกัด RSUs) ถูกใช้เพื่อประสานการกระตุ้นและให้ความมั่นใจว่าผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายปฏิบัติตามหน้าที่ ในบริษัทแบบดั้งเดิม โดยทั่วไป "ทยอยให้ตามเวลา" มักมาพร้อมกับความคาดหวังในการทำงานที่เฉพาะเจาะจงและมีสิทธิ์ในการยกเลิกสิทธิ์ในอนาคตเมื่อไม่ได้รับความคาดหวังเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม ในโครงข่ายการเข้ารหัส กลไก "ทยอยให้ตามเวลา" ตำแหน่งล็อคอัพไม่มีกลไกที่คล้ายกัน - โทเค็นเพียงแค่ถูกล็อคอัพไว้สำหรับระยะเวลาหนึ่ง โดยไม่มีสิทธิ์ แล้วถูกปลดล็อค

กลไกที่เรียกว่า ตําแหน่งล็อคอัพ เหล่านี้ – ซึ่งไม่สมควรถูกเรียกว่า "ระยะเวลาการให้สิทธิ์" – มักจะบิดเบือนสัญญาณตลาดโดยให้ความประทับใจที่ผิดพลาดว่าพวกเขาสูงกว่าความต้องการจริงมาก หากเราเข้าใจว่าสัญญาณราคาเป็นจุดสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานของสินทรัพย์มูลค่าตลาดของสัญญาณเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานในการแสดงความชอบได้อย่างอิสระ (เช่นผู้ที่ตั้งใจจะขายมีอิสระที่จะขายและผู้ที่ตั้งใจจะซื้อมีอิสระที่จะซื้อ) ตําแหน่งล็อคอัพ จํากัด ความสามารถของฝ่ายในการแสดงความชอบซึ่งจะช่วยปรับปรุงคุณภาพของสัญญาณ สิ่งนี้อาจมีมูลค่าระยะสั้นตามราคาตลาดกําไรจากการจัดอันดับหรือผลประโยชน์เชิงเมตริกอื่น ๆ แต่มันทําให้ตลาดโดยรวมมีคุณภาพน้อยลงเนื่องจากสัญญาณราคาถ่ายทอดข้อมูลน้อยลง

น่าเสียดายที่มีการล็อกอัพเหล่านี้ทำให้สิ่งประกอบการสูญเสียประโยชน์สาธารณะ ผู้ถือโทเค็นที่เข้าร่วมโครงการหลังจากการออกโทเค็น จะเผชิญกับสัญญาณราคาที่ไม่แม่นยำเนื่องจากการปลดล็อกแบบคงตัว ที่ไม่สะท้อนอารมณ์ของตลาดจริงๆ ผู้ถือโทเค็นที่มีสิทธิ์เข้าถึงตลาดและข้อมูลที่ไม่เปิดเผยมีความเป็นผู้มีประโยชน์ที่ไม่เป็นธรรมและบ่อยครั้งจะขายโทเค็นที่ถูกล็อกค่าใช้จ่ายได้ หากต้องการสัญญาณตลาดที่แท้จริง คุณต้องวิเคราะห์ผู้ถือที่ต้องการขายแต่ไม่สามารถขายได้ และคาดการณ์การซื้อขายที่กำลังเกิดขึ้นในพื้นที่ลับ การวิเคราะห์เชิงลึกและเวลาที่ใช้ในการทำงานนี้ซับซ้อนเกินไปสำหรับผู้เข้าร่วมตลาดส่วนใหญ่

การกดดันจากตลาดไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ตำแหน่งล็อคอัพไม่สามารถขัดขวางการขายได้ มันเพียงแต่เลื่อนการกระทำที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เงื่อนไขที่ต้องทยอยให้ตามเวลาจะสิ้นสุดลง ผู้ที่ต้องการขายตลอดจะทำเช่นนั้น สิ่งนี้จะสร้างความกดดันที่ต่อเนื่องต่อตลาดและบ่อยครั้งทำให้มูลค่าตามราคาตลาดลดลงช้าๆ สำหรับฉันส่วนตัว ฉันจะรู้สึกลังเลที่จะถือทรัพย์สินหรือเข้าร่วมเครือข่าย โดยเฉพาะเมื่อมีผู้ถือมากมายที่ต้องการออกแต่ไม่สามารถออกได้ สิ่งนี้ยังเป็นปัญหาสำหรับผู้เข้าร่วม (เช่น ผู้ตรวจสอบความถูกต้อง) ที่ต้องการสัญญาณราคาที่แม่นยำเพื่อทำนายรายได้และต้นทุนดำเนินงาน

หากเป้าหมายของภูมิภาคการเข้ารหัสคือการสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถให้ค่าจริงและยาวนาน แนวทางที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพดัดแปลงดัชนีช่วงสั้น ๆ ไม่สามารถช่วยให้เกิดเป้าหมายนี้ได้ การประเมินศักย์ศิลป์ของโครงการใด ๆ ต้องสามารถประเมินได้ว่าผู้เข้าร่วมมุ่งมั่นกับโครงการนั้นจริง ๆ หากคุณไม่รู้ว่าผู้คนถือโทเค็นเพราะพวกเขาเชื่อในโครงการจริงหรือเพราะพวกเขาถูกห้ามขาย การประเมินจะเป็นไปไม่ได้

ออร์โธดอกซ์ของ "การไหลเวียนต่ํา FDV สูง" มาพร้อมกับการวิพากษ์วิจารณ์ "วิธีการแจกจ่ายที่เป็นธรรม" อย่างไรก็ตามข้อเสนอเหล่านี้จํานวนมากเพียงแค่เรียกร้องให้เพิ่มสัดส่วนของอุปทานหมุนเวียนในช่วงเวลาของการเริ่มต้นและอย่าตั้งคําถามถึงความชอบธรรมของ "ระยะเวลาการให้สิทธิ์" ตําแหน่งล็อคอัพเอง

เท่านั้นยังไม่พอ การจัดการสัญญาณตลาดทุกรูปแบบยังคงเป็นการจัดการสัญญาณตลาด เราจําเป็นต้องทําลายความเป็นดั้งเดิมของสกุลเงินดิจิทัลผ่านชุดการทดลองใหม่

自由市场การออก

เราเรียกมันว่า"วิธี01928374656574839201"มีประโยชน์อย่างมาก มันอนุญาตให้ทุกคนแสดงออกถึงความชอบของตนได้อย่างอิสระ หากคุณต้องการขาย คุณสามารถขายได้ หากคุณต้องการซื้อ คุณสามารถซื้อได้ สำคัญที่สุดคือคุณสามารถทำการตัดสินใจเหล่านี้ได้อย่างมั่นใจ เนื่องจากสัญญาณราคาเป็นเชิงจริงและมีความหมาย ทุกคนสามารถแสดงออกถึงความชอบของตนได้อย่างโปร่งใสและเรียลไทม์ในขณะนี้

สร้างชุมชนผู้ถือที่เชื่อมั่นในโครงการจริง ๆ ซึ่งผลประโยชน์ระยะยาวมีค่ามากกว่าโอกาสการถอนตัวในช่วงเริ่มต้นสำหรับคนที่ไม่เชื่อในโครงการ ซึ่งมีความเสี่ยงในระยะสั้น เราต้องการโครงการที่มีค่าจริงและมีความทนทานสำหรับโลก แต่เป็นชั่วจริงว่าความคิดแบบดั้งเดิมในระยะยาวที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่ได้นำเข้าโครงการที่มีค่าแบบนี้มากเลย (แม้แต่เล็กน้อย)

วิธีตลาดเสรีมักจะถูก 01928374656574839201 ในการใช้เหรียญขี้หรือเหรียญขี้หรือเหรียญขี้ทำให้คนเชื่อว่ามันไม่เหมาะสมสำหรับโครงการที่โดดเด่นอย่างเป็นรากฐานอย่างไรก็ตาม สามารถโต้แย้งได้อย่างถูกต้องว่านอกจากส่วนที่น่าสนใจของเหรียญขี้หรือเหรียญขี้หรือเหรียญขี้ เหตุผลที่สำคัญส่วนใหญ่ของความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของมันมาจากการตลาดที่รู้ว่าแบบแผนธุรกิจนี้เป็นประโยชน์ต่อโทเค็นผู้ถือและบ่อยครั้งจะสร้างชุมชนที่เต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวและเป็นธรรมชาติมากกว่า

เราควรลองสิ่งใหม่ ๆ แม้ว่ามันจะมีความเสี่ยง ฉันหวังว่าการออกตลาดเสรีจะสามารถกระตุ้นการคิดเกี่ยวกับเส้นทางใหม่ๆ สำหรับอนาคตมากขึ้น ความคิดรวมในอุตสาหกรรมการเข้ารหัสในปัจจุบัน - ไม่ใช่เพราะเรามีความคิดชัดเจนเกี่ยวกับทำไมถึงทำแบบนี้ แต่เป็นเพราะทุกคนทำแบบนี้ และดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพจากตัวชี้วัดที่มองเห็นได้เฉยเทศ กำลังขัดขวางนวัตกรรม หากคุณวางแผนที่จะเปิดโปรเจคและออกไปในอีก 1 หรือ 2 ปี การเลือกที่จะไปตามกระแสอาจเป็นกลยุทธ์ที่สมเหตุสมผล แต่ถ้าคุณต้องการนำค่าความหมายที่แท้จริงมาสู่โลก นั้นไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดี ตอนนี้เวลาที่จะทดลองสิ่งใหม่ ๆ แล้ว