เมื่อการแข่งขันภายในระบบนิติบุคคล BTC เข้มข้นขึ้น โครงการที่มีความต้องการเงินทุนและผลตอบแทนจากภายนอกจะมีความคุ้มค่ามากขึ้น

การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลเป็นศิลปะที่ตามไหลของเงิน โดยมักมีความคิดเห็นอัลฟ่าที่ซ่อนอยู่ในดีไนแมคของการจัดทุนรอบแรก การวิจัยระบุว่าในไตรมาสแรกของปีนี้ โครงการจัดทุนที่มีความ-concentrated มากที่สุดอยู่ภายในนิเวศ BTC ตัวอย่างเช่น Babylon โปรโตคอลการจัดทุน Bitcoin staking ได้รับเงินทุน 70 ล้านเหรียญสด ซึ่งบ่งบอกถึงความเห็นใจของนักลงทุนเสี่ยงในตลาดนี้

อย่างไรก็ตามภายในระบบนิเวศ BTC การขยายตัวของ Bitcoin และประสิทธิภาพทางเงินทุนยังต้องมีการปรับปรุง ตัวอย่างเช่นส่วนแบ่งของ Bitcoin ใน DeFi เสมอมาก่อน โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับทุนตลาดที่ใหญ่ของมัน

แต่หากคุณคิดในทิศทางต่าง และพิจารณาว่าระบบนิเวศอื่นๆ สามารถได้ประโยชน์จากความนิยมของระบบ BTC และว่ามูลค่าของ BTC สามารถไหลเข้ามา สถานการณ์จะเปลี่ยนไปอย่างมีนัยยิ่ง ทุนเสมอมีการไหลไปมา ในปัจจุบัน ระบบ BTC ดึงดูดสภาพลม แต่ทรัพย์สินนานาพอแทบไม่ได้ไหลออก

ยังมีผู้ใช้งานที่ใช้งานอยู่ในระบบนิเวศอื่น ๆ อีกมากมาย มีวิธีใดบ้างที่จะสามารถขยายผลตอบแทนจากสินทรัพย์ BTC และประสิทธิภาพทุนสู่ระบบนิเวศเหล่านี้ได้หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีความคาดหวังที่ดีในระยะยาวสำหรับ BTC และการถือเหรียญของนักขุดที่มีอยู่เสมอนั้นจะมีค่า Opportunity cost เนื่องจากมีเงินอยู่ในมือเป็นเวลานาน ซึ่งสร้างความต้องการในตัวเลือกการสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้น

ดังนั้น เมื่อการแข่งขันภายในระบบนิเวศ BTC เพิ่มมากขึ้น โครงการที่มีความต้องการใน Likuiditi และผลตอบแทนจากภายนอกกลายมาสำคัญมากขึ้น โปรเจคท์ล่าสุด FBTC เป็นหนึ่งในโครงการดังกล่าว มันช่วยให้สินทรัพย์ของคุณสามารถเข้าร่วมได้ในแหล่งที่มาของ Bitcoin ต่าง ๆ ผ่าน FBTC ซึ่งถูกเกี่ยวโยงไปที่ BTC อย่าง 1:1 โดยไม่ว่าจะอยู่บนบล็อกเชนใด

สิ่งนี้ยังเป็นสาเหตุให้เกิดแนวคิดใหม่ ๆ - Omnichain BTC แนวคิดใหม่นี้เกิดขึ้นหลังจากการเติบโตต่อเนื่องของมูลค่าของบิตคอยน์และการเปิดตัวแหล่งที่มีอัตราผลตอบแทนบิตคอยน์ที่น่าสนใจต่าง ๆ แนวคิดใหม่นี้ยังเปิดโอกาสเพิ่มเติม

นอกจากนี้โครงการได้รับการสนับสนุนจากพื้นฐานโครงสร้างและแพลตฟอร์มเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Mantle และ Antalpha Prime

สินทรัพย์ Bitcoin รุ่น Full-Chain เช่น FBTC มีความแข่งขันในตลาดหรือไม่? เราควรให้ความสนใจกับผลตอบแทนที่มีศักยภาพอะไรบ้าง?

wBTC, วิธีการแก้ปัญหาสูงสุด ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุด

ทำไมเราควรให้ความสำคัญกับสินทรัพย์สังเคราะห์เช่น FBTC? ก่อนอื่นเลยให้เรามาพิจารณาสถานการณ์ปัจจุบันของสินทรัพย์ BTC ภายนอกโลก Bitcoin

จากตรรกะหลักของ "สินทรัพย์ที่ต้องการไหลออก" คุณจะพบว่าตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดของ BTC ที่ไหลออกคือ wBTC (Wrapped BTC) ซึ่งเป็นโทเค็น ERC-20 บนบล็อกเชน Ethereum ที่ผูกขาย 1:1 กับ BTC อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆ นี้ wBTC กลายเป็นจุดสนใจหลักเนื่องจากวิกฤติความไว้วางใจ บริษัทที่อยู่เบื้องหลัง wBTC ชื่อ BitGO ประกาศว่าจะละทิ้งควบคุมของ wBTC ซึ่งทำให้เกิดการอภิปรายเกี่ยวกับความปลอดภัยของการควบคุม wBTC ในอนาคต

นอกเหนือจากความขัดแย้งนี้ ประสิทธิภาพของ wBTC ในระบบ Ethereum ที่มีชนิดของสินทรัพย์ที่หลากหลายและกรณีการใช้งาน DeFi ที่เจริญก้าวหน้าก็ยังไม่ได้ดีเท่าที่คาดหวัง

ข้อมูลสาธารณะแสดงให้เห็นว่า ถึงแม้ wBTC จะมีตำแหน่งหลักในทั้งปริมาณสินทรัพย์สังเคราะห์ที่สูงสุดและส่วนแบ่งตลาดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์สังเคราะห์ BTC ที่คล้ายกันบน Ethereum แต่ประสิทธิผลโดยรวมยังคงไม่น่าพอใจ

แต่สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่า wBTC นั้นเป็นผู้นำเรื่องประสบการณ์ผู้ใช้ กลไก และผลตอบแทน

ตัวแปลง Bitcoin คุณภาพเสียงออนเชนต่ำและปริมาณการซื้อขายและความลึกของมันในแลกเปลี่ยนที่ได้รับการจัดสรรแบบกลางถือเป็นประเด็นสำคัญที่สุด นอกจากความขัดแย้งในการเป็นเจ้าของ ความกังวลหลักคือผลตอบแทนของ wBTC ที่ต่ำ เช่น ความไม่สามารถในการสนับสนุนสถานการณ์ผลตอบแทน Bitcoin ในระบบ Babylon และผลิตภัณฑ์ CeDeFi

ตามที่แสดงในตารางด้านล่าง wBTC ช้าลงอย่างมีนัยสำคัญในการคืนผลตอบแทนเมื่อเปรียบเทียบกับสินทรัพย์เข้ารหัสต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น บนแพลตฟอร์มเช่น Compound และ AAVE wBTC ให้ผลตอบแทนเพียง 0.01% - 0.08% เท่านั้น

โดยชัดเจนว่าสำหรับสินทรัพย์ BTC สังเคราะห์ wBTC ในปัจจุบันเป็นทางเลือกสูงสุด แต่ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นสำหรับ Ethereum หรือนิเคอิอื่น ๆ การใช้ทุนไม่เคยหลับตาไปเลย ตลาดต้องการแนวทางที่ดีกว่าเสมอที่ท้าทาย wBTC โดยต้องมีการปรับปรุงในด้านต่อไปนี้:

• ผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ดีกว่า: การ提供โอกาสในการสร้างรายได้มากขึ้น
• ประสิทธิภาพทุนทรัพย์และ Likelihood ที่เพิ่มขึ้น: * การลดแรงเสียดทานในการเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ BTC แบบสังเคราะห์และการสร้างความเชื่อมโยงกับเครือข่ายบล็อกเชนอื่นๆมากขึ้น (Ideally establishing connections with more blockchains).
• เพิ่มความไม่มั่นคง: การรักษาความปลอดภัยที่มากขึ้นในระหว่างการเปิดตัว BTC สังเคราะห์

อีกทั้งในระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องกับ BTC มูลค่ารวมที่ล็อค (TVL) เพียงเพียง 4% ของขนาดตลาดโทเคน BTC เทียบกับ 75% ของ TVL ในระบบนิเวศ ETH ที่ขนาดตลาดโทเคน ETH ต่ำมาก

สินทรัพย์สังเคราะห์ ERC20 หลายราย มีโอกาสสำคัญ นี่คือตรรกะพื้นฐานที่อยู่เบื้องหลังการมีของ FBTC

FBTC, นักบุญของสินทรัพย์สังเคราะห์ BTC แบบเต็มระบบ

ถ้าเราจะกำหนด FBTC แล้วมันก็คือสินทรัพย์สังเคราะห์ประเภทใหม่ที่ผูกติดกับ BTC และรองรับการหมุนเวียนของ BTC บนโอมนิเชนแบบ 1:1

ในปัจจุบัน FBTC จะเริ่มเปิดให้ใช้งานบน Ethereum, Mantle, และ BNB Chain โดยมีแผนในอนาคตที่จะขยายเครือข่ายเพิ่มเติม

หมายถึงอะไรเมื่อถูกผูกไว้ 1:1 กับ BTC? ง่ายๆ ก็คือเมื่อคุณฝาก BTC เข้าไปในที่อยู่ที่แน่นอน จะสร้าง FBTC (ตัวอย่างเช่นในรูปแบบ ERC20) 1:1 บนเครือข่ายใดก็ได้ตามที่คุณเลือก จากนั้นคุณสามารถใช้ FBTC เพื่อรับผลตอบแทนในสถานการณ์ DeFi ต่างๆ ได้

สรุปแล้ว ข้อดีหลักของ FBTC คือ:

• การเก็บรักษาแบบหลายฝ่าย: FBTC จะใช้ผู้ให้บริการการเก็บรักษา MPC (Multi-Party Computation) หลายราย
• การรักษาความมั่นใจทางเทคนิคและการจัดระบบ: การเผาผลาญและการสร้าง FBTC และการสร้างสะพานระหว่างเครือข่ายสามารถและการรักษาความปลอดภัยทางเทคนิคโดยเครือข่าย TSS (Threshold Signature Scheme) ซึ่งมีการดำเนินการโดยคณะกรรมการด้านความปลอดภัยของ FBTC และบริษัทด้านความปลอดภัย
• ความโปร่งใสของเงินสํารอง: หลักฐานสํารองของ FBTC สามารถสอบถามได้แบบเรียลไทม์และได้รับการตรวจสอบและตรวจสอบโดย บริษัท รักษาความปลอดภัย
• การใช้งาน Locked FBTC: Locked FBTC สามารถถูกนำไปใช้เป็นหลักทรัพย์ BTC หรือเข้าร่วมในการจัดการ Babylon staking ได้
• ความเชื่อมั่นของผู้ชม: สร้างขึ้นโดยผู้มีชื่อเสียงในระบบบล็อกเชนและสถาบันการเงินบิตคอยที่มีอยู่ในระยะยาว ได้รับความเชื่อมั่นจากนักขุดและผู้สร้างหลายราย
• โทเค็นการบริหารเป็นสิทธิประโยชน์

เพื่อเข้าใจการออกแบบผลิตภัณฑ์และการทำงานของ FBTC คุณไม่จำเป็นต้องลงลึกในรายละเอียดทางเทคนิคที่ซับซ้อน แต่อย่างใด แทนที่นั้น พิจารณาสามคำถามสำคัญ:

คุณฝาก BTC ที่ไหน? BTC จะไปที่ไหน? ใครรับรองกระบวนการฝากถอน?

การออกแบบของ FBTC จะตอบสนองคำถามเหล่านี้ดังนี้:

• ที่อยู่การเก็บ BTC Chain Custody: นี่คือที่ฝาก BTC

ในการใช้ FBTC ระบบจะสร้างที่อยู่ฝากเงินในเครือข่าย Bitcoin สำหรับผู้ใช้ทุกคนที่มีคุณสมบัติก่อน ที่อยู่เหล่านี้ถูกควบคุมโดยโหนดลายมือ (Multi-Party Computation) multi-signature (การออกแบบความปลอดภัยของโหนดเหล่านี้จะอธิบายในภายหลัง) หลังจากที่ผู้ใช้ที่มีคุณสมบัติฝาก Bitcoin เข้าไปในที่อยู่ของพวกเขา FBTC จะถูกออกให้กับผู้ใช้ที่มีคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องบนเครือข่ายเป้าหมาย ดังนั้น จำนวนทั้งหมดของ Bitcoin ที่ล็อคอยู่ในที่อยู่ที่ควบคุมโดย MPC จะตรงกับจำนวนรวมของ FBTC บนเครือข่ายเป้าหมาย กล่าวอีกนัยหนึ่ง หนึ่ง BTC ที่ฝากเข้าไปจะทำให้มีหนึ่ง BTC ที่ล็อคไว้และหนึ่ง FBTC เกิดขึ้น

• สัญญาฉลาดของเชื่อมเชื่อ: สิ่งนี้ช่วยให้การสร้างและทำแม็ป BTC ไปยังระบบนิเวศต่าง ๆ

BTC ถูกฝากในที่อยู่ฝากจะถูกแจกจ่ายไปยังโซ่เป้าหมายอย่างไร?

นี่เกี่ยวข้องกับสัญญาอัจฉริยะสำหรับการสร้างสะสมสินทรัพย์สำหรับผู้ใช้ที่มีคุณสมบัติและจัดการการออกสู่โซ่ข้ามสระของ FBTC ในพื้นที่ ในทางปฏิบัติคุณสามารถนึกภาพได้เสมือนสัญญาอัจฉริยะที่เขียนไว้ล่วงหน้าเพื่อจัดการการจัดหาและการโอนของโทเค็นสินทรัพย์สังเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง

• โมดูล Off-Chain: ช่วยให้มั่นใจได้ว่ากระบวนการฝากและการออกจะดําเนินไปอย่างราบรื่น

เมื่อ BTC เข้าสู่ระบบและสัญญาออกสินทรัพย์สังเคราะห์ไปยังโซ่เป้าหมาย บทบาทต่าง ๆ มีความสำคัญสำหรับกระบวนการ ในระบบ FBTC โมดูลเช่นตัวตรวจสอบสะพาน เกตเวย์ TSS โหนด TSS และการควบคุมความเสี่ยงแต่ละส่วนมีบทบาทในการให้ความสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการทั้งหมดจาก BTC ไปยัง FBTC (และในทิศทางกลับ) ทำงานได้สะดsmooth

ตัวอย่างเช่น ตัวตรวจสอบสะพานติดตามเหตุการณ์บนเชื่อมโยงเช็คเอาท์ในเวลาจริง เช่นการสร้างเหรียญใหม่ การเผาไหม้ และคำขอไครส์เชน ประตู TSS จัดการกระบวนการลงลายมือเพื่อให้การทำธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์ โหนด TSS ใช้กลไกการลงลายมือแบบกระจาย ๆ โดยแต่ละโหนดทำงานร่วมกันเพื่อควบคุมความเสี่ยงของทรัพย์สินโดยรวม

สิ่งที่สำคัญกว่าเทคโนโลยีคือการออกแบบและการจัดเรียงของบทบาทต่างๆที่เกี่ยวข้อง ในกระบวนการที่อธิบายไว้ สินทรัพย์ที่ฝากไว้ในที่อยู่ MPC จัดการจริงๆโดยผู้รับมอบฝาก โดยมีการแบ่งปันคีย์โดยสถาบันที่เชื่อถือได้หลายแห่ง การออกเอกสาร FBTC จะดำเนินการในลักษณะที่กระจายอยู่ในระดับที่จำกัดโดยการควบคุมความเสี่ยง

นอกจากนี้ไม่ใช่ทุกผู้ใช้สามารถเทียบเท่ากับการพิมพ์ FBTC ได้ คำว่า "ผู้ใช้ที่มีคุณสมบัติ" หมายถึงหน่วยงาน สถาบัน และผู้ค้าที่ตรงตามเกณฑ์บางอย่างและได้รับอนุญาตให้พิมพ์ FBTC นี้มีหน้าที่เป็นกลไกการกำหนดลำดับที่มีผู้ค้าพิมพ์ FBTC และผู้ใช้สามารถสมัครสมาชิกได้แทนที่จะพิมพ์โดยตรง

ปัจจุบันเว็บไซต์ FBTC ให้บริการจุดเข้าถึงที่ผู้ใช้สามารถสลับ FBTC ผ่านโปรโตคอล DeFi ต่าง ๆ อย่างไรก็ตามปริมาณของ FBTC ที่หมุนเวียนขึ้นอยู่กับกิจกรรมการเทียบทูลของผู้ใช้ที่มีคุณสมบัติ

นี่คล้ายกับระบบพันธมิตรที่มีจุดมุ่งหมายที่เหมาะสม เมื่อสถาบันที่เชื่อถือได้สูงร่วมกันก่อตั้งพันธมิตรเพื่อให้การทำงานราบรื่นและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในช่วงต้นๆ ต่อมาระบบจะเริ่มค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปสู่ความกระจายอย่างสมบูรณ์

ตัวอย่างเพื่อเข้าใจการสร้างและทำลาย FBTC อย่างรวดเร็ว

หากบทบาทและการออกแบบทางเทคนิคยังคงดูเป็นแบบฉบับ ให้เรามาดูตัวอย่างเฉพาะของวิธีการเจาะสำเร็จรูปและการเผา FBTC กัน

สมมติว่า Alice ต้องการสร้าง 1 FBTC บน Ethereum จาก 1 BTC ของเธอ นี่คือวิธีที่มันทำงาน:

1. การเริ่มการโอน: Alice โอน 1 BTC ไปยังที่อยู่การปกครองของ MPC ที่ระบบ FBTC จัดหา
2. คำขอการเก็บรักษา: Alice เชื่อมต่อกับสัญญาการเชื่อมต่อ FBTC บน Ethereum เพื่อเริ่มต้นคำขอการเก็บรักษา 1 FBTC
3. การตรวจสอบคำขอ: ตัวควบคุมสะพานตรวจพบและตรวจสอบคำขอการสร้างสกุลเงินของ Alice และธุรกรรมฝากเงิน 1 BTC ในเวลาจริง
4. การส่งต่อคำขอ: ตัวตรวจสอบสะพานส่งคำขอการเหรียญของ Alice ไปยัง TSS Gateway
5. การเซ็นรายการ: เกตเวย์ TSS ประสานงานกับหลายๆ โหนด TSS เพื่อเซ็นรายการ โหนดเหล่านี้ใช้อัลกอริทึม MPC เพื่อสร้างลายเซ็นรายการ ให้มั่นใจในความถูกต้องของทั้งการฝากเงินและคำขอการขุดเหรียญ
6. การสร้างเหรียญ FBTC: เมื่อได้รับการยืนยันแล้ว เหรียญ FBTC จะถูกสร้างและส่งไปยังที่อยู่กระเป๋าของ Alice บนเครือข่าย Ethereum

ในตัวอย่างข้างต้น ทั้งด้านเทคนิคและด้านการปกครอง รักษาความราบรื่นและความปลอดภัยของกระบวนการ ซึ่งผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องทราบ

เมื่อผู้ใช้ที่มีคุณสมบัติ (เช่น Alice) โอน BTC ไปยังที่อยู่การเก็บรักษา ที่อยู่นี้จะถูกจัดการโดยผู้เก็บรักษาหลายคนผ่านที่อยู่ MPC ซึ่งหมายความว่าการถอน BTC ใด ๆ ต้องมีลายเซ็นจากผู้เก็บรักษาหลายคน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เก็บรักษาใด ๆ เข้าถึง BTC และป้องกันการถูกขโมยทรัพย์สิน

ตัวตรวจสอบสะพานติดตามการทำงานในเวลาจริงเพื่อให้แน่ใจว่าทุกขั้นตอนถูกดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลอย่างเข้มงวด

เกตเวย์ TSS ประสานหลายๆ โหนด TSS เพื่อเซ็นสัญญาณธุรกรรม โหนดเหล่านี้ใช้ระบบลายเซ็นความถี่ (TSS) เพื่อเซ็นสัญญาณธุรกรรมร่วมกัน โดยรับรองว่าการสร้างเหรียญ FBTC หรือการถอน BTC เสร็จสมบูรณ์เมื่อเข้าสู่เงื่อนไขการรักษาความปลอดภัยและการตรวจสอบทั้งหมด

ประโยชน์อีกอย่างคือการทำให้การโอนเงินระหว่างโซ่สะพานข้ามสายง่ายขึ้นด้วยกลไก Mint และ Burn

เช่นเดียวกับกระบวนการสร้างสรรค์ หาก Bob เริ่มต้นขอโอน 1 FBTC จาก Ethereum ไปยัง BSC:

สัญญาการเชื่อมต่อบน Ethereum ทำให้เหรียญ FBTC ของบ็อบไหม้ลง 1 FBTC ลดจำนวนเหรียญ FBTC บน Ethereum

ตัวตรวจสอบสะพานตรวจพบเหตุการณ์นี้และส่งไปยังเกตเวย์ TSS

เราเปิดใช้งาน TSS Gateway ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก หลังจากนั้นเราจะเริ่มทำสัญญาเชื่อมต่อบน BSC เพื่อยืนยันการทำงานข้ามเชื่อมต่อ

เมื่อธุรกรรมได้รับการยืนยันแล้ว Bob จะได้รับ 1 FBTC บน BSC

กระบวนการนี้เป็นไปตามขั้นตอนและมาตรการรักษาความปลอดภัยเดียวกันเพื่อให้แน่ใจว่าการดําเนินการข้ามสายโซ่แต่ละครั้งได้รับการยืนยันโดยโหนดตรวจสอบความถูกต้องหลายโหนด เพื่อหลีกเลี่ยงความล้มเหลวและการกระทําที่เป็นอันตรายเพียงจุดเดียวในขณะที่สามารถถ่ายโอนสินทรัพย์ BTC สังเคราะห์ระหว่างเครือข่ายบล็อกเชนต่างๆ ได้อย่างราบรื่น

ทรัพยากรที่ดีขึ้นสร้างสินทรัพย์ที่ดีขึ้น

จากมุมมองด้านการออกแบบ การออกแบบทางเทคนิคของ FBTC ไม่ซับซ้อนมาก โดยมีหลักการชัดเจนสำหรับการเข้าและออก สำหรับสินทรัพย์สังเคราะห์ระหว่างโซนเชื่อมโยงเช่น FBTC ในขณะที่เทคโนโลยีและความปลอดภัยเป็นความต้องการพื้นฐาน ความสามารถในการครอบคลุมทรัพยากรคือขีดจำกัดสูงสุด

สามารถพูดได้ว่าทรัพยากรที่ดีกว่าจะนำไปสู่สินทรัพย์ที่ดีกว่า: ง่ายๆ ก็คือการสะสมทรัพยากรและสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่กว้างขวางเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จของ FBTC หรือโครงการที่คล้ายกัน ในที่สุด FBTC จะต้องมีผู้นำไปสู่การนำไปใช้ ผู้ใช้ ผู้สนับสนุน และความสามารถในการเคลื่อนย้ายบุคคลและทรัพยากรเหล่านี้เพื่อให้การดำเนินงานของมันเรียบร้อยและราบรื่น

งั้นที่แท้จริง หมายถึง "ทรัพยากร" คืออะไร?

สินทรัพย์ FBTC เดี่ยวๆ ไม่สามารถเคลื่อนที่เองได้ คุณต้องดึงดูดและรวมพันธมิตรและผู้เข้าร่วมหลายราย เช่น โปรโตคอลการเงินที่ไม่มีใครควบคุม (DeFi) เชื่อมต่อเครือข่ายทางเครื่องต่อทางตระกูล แลกเปลี่ยนและผู้ให้บริการการเก็บรักษาสินทรัพย์ การมีความเกี่ยวข้องและการสนับสนุนจากพันธมิตรเหล่านี้สามารถเสริมความน่าเชื่อถือและกรณีการใช้งานของโครงการได้ จึงส่งเสริมการหมุนเวียนและการยอมรับของสินทรัพย์ FBTC

ดังนั้นคำถามก็เป็นว่า FBTC สามารถรักษาทรัพยากรและความสามารถเหล่านี้ได้หรือไม่

สำหรับ Mantle ในฐานะ L2 solution มันจะผสานสมรรถนะได้ง่ายขึ้นกับโปรโตคอล DeFi ต่าง ๆ เช่น การให้ยืมเงิน การทำเหมือง Likwiditi และตลาดแบบกระจาย (DEXs) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศของโซ่ของมัน สิ่งนี้ไม่เพียงเพิ่มโอกาสในการรับรายได้ให้กับเจ้าของ FBTC มากขึ้น แต่ยังเสริมสร้างกรณีการใช้และความต้องการในตลาดสำหรับ FBTC ด้วย

ในปัจจุบัน FBTC ได้เป็นพันธมิตรกับ 24 โครงการต่าง ๆ โดยแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมต่อของมัน:

1. Babylon Ecosystem: solv, pumpbtc, bedrock, pell network, lombard, satlayer, etc.
2. On-chain DeFi: merchant moe, agni, dodo, Init, ฯลฯ
3. CeDeFi: avalon finance, bouncebit, etc.
4. โครงการโซ่ใหม่เป็นผู้เก็บรักษาสินทรัพย์: fuel, mezo, bob, botanix, ฯลฯ

สำหรับสินทรัพย์สังเคราะห์跨โซน พาร์ทเนอร์เมล็ดพันธุ์เหล่านี้เล่นบทบาทสำคัญในการเปิดตัวเริ่มแรกของ FBTC โดยการฉีดเงินลงในตลาดอย่างมาก

Mantle ที่ครอบครองกลุ่มทรัพย์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เป็นที่รู้จักในฐานะผู้เล่นระดับสำคัญในพื้นที่ L2 อย่างแน่นอนว่าบางส่วนของเงินทุนเหล่านี้จะถูกนำมาใช้กับพันธมิตรและโปรโมชั่นซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของ FBTC อย่างมาก อย่างไรก็ตามในขณะนี้ช่องทางอย่างเป็นทางการยังไม่ได้ประกาศโปรแกรมส่งเสริมเพิ่มเติม ดังนั้นควรตรวจสอบเพื่อหาโอกาสที่เป็นไปได้

Antalpha Prime ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของระบบนิเวศ BTC ให้การสนับสนุนทางเทคนิคที่จําเป็นสําหรับการเติบโตของโครงการที่เกี่ยวข้องกับ BTC นอกจากนี้ Cobo ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานรายแรกๆ ของ FBTC ยังมีความเชี่ยวชาญในการดูแลและจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยความสามารถในการรักษาความปลอดภัยและ MPC ที่แข็งแกร่ง ความเชี่ยวชาญนี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของ FBTC ทั้งในการดูแลและการดําเนินงานข้ามสายโซ่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสของโครงการ โคโบยังเป็นหนึ่งในผู้ดูแลเบื้องต้นสําหรับการปักหลักบาบิโลน

FBTC เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมและภายในหนึ่งเดือนการหมุนเวียนแบบ on-chain เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 70 ล้านดอลลาร์ เมื่อมองไปข้างหน้าในไตรมาสที่ 3 จะมีโอกาสสร้างรายได้ใหม่สําหรับผู้ถือ FBTC นอกเหนือจากการปักหลักหรือ restaking บน Ethereum และ Mantle แล้วการฝาก FBTC ไว้ในโปรโตคอลพันธมิตรที่มีผลตอบแทนยังสามารถสร้าง APY ผ่านกลไกการให้กู้ยืมและการปักหลัก

FBTC ได้เปิดตัวบน BSC แล้ว โดยมีแผนขยายตัวไปสู่ระบบ blockchain ที่สำคัญและเติบโตขึ้น โครงการจะเริ่มเปิดให้ผู้ถือ FBTC ได้รับ Ignition Sparkle Campaign เพื่อเปิดตัวในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ซึ่งอาจเป็นการเตรียมพื้นฐานสำหรับ airdrops ในอนาคต ผู้ใช้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมได้ที่ เว็บไซต์ของโครงการสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม

สรุปผล

สินทรัพย์ Crypto มีการใช้งานอยู่เสมอและการแสวงหาผลตอบแทนและสภาพคล่องที่มากขึ้นเป็นแรงผลักดันที่ไม่รู้จักจบสิ้น หน่วยงานที่ให้บริการที่ดีขึ้นสําหรับการเคลื่อนย้ายสินทรัพย์จะได้รับประโยชน์จากการไหลนี้เช่นเดียวกับสถานีบริการน้ํามันที่เห็นการจราจรคงที่ควบคู่ไปกับทางหลวงและช่องทางด่วน

FBTC จากการออกแบบสินค้าและวางแผนเบื้องต้น จะเห็นได้ว่าเป็นสถานีเติมเชื้อสำหรับสินทรัพย์ BTC โดยใช้วิธีการสังเคราะห์跨เชน เพื่อเปิดใช้งานและเชื่อมโยงระบบนิเวศของ BTC กับผลตอบแทนภายนอก

อย่างไรก็ตามเช่นกับกิจการใดก็ตาม ความสำเร็จยังขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การตลาดและการดำเนินงานในตลอดเวลา การสร้างความมั่นคงในด้านความปลอดภัย การเชื่อมต่อผ่านโซ่ที่ครอบคลุมอย่างครบถ้วนและการสู้รายได้สูงสุดเป็นเป้าหมายหลักสำหรับ FBTC อนาคตดูมีความมั่นใจสำหรับการพยายามนี้

คำแถลง

1. บทความนี้เป็นการสอดคล้องจาก [ techflowpost], ชื่อเรื่องต้นฉบับคือ "การตีความของ FBTC: นักบุญของสินทรัพย์สังเคราะห์ BTC ทั้งหมด ทำการเรียกเก็บประสิทธิภาพของเงินทุนไปสู่โลกคริปโตที่กว้างขวาง", ลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ [เทคโฟร์ ดีพ เวฟ], if you have any objection to the reprint, please contact ทีม Gate Learnทีมจะดำเนินการให้เร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

2. ข้อความประกาศ: มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนบุคคลของผู้เขียนเท่านั้นและไม่เป็นการให้คำแนะนำในการลงทุนใด ๆ

3. ภาษาอื่น ๆ ของบทความถูกแปลโดยทีม Gate Learn ที่ไม่ได้กล่าวถึงเกต.ioบทความที่ถูกแปลอาจไม่สามารถทำซ้ำ กระจายหรือลอกเลียนได้