28 March 14:53
English
Tiếng Việt
Español
Русский
Français (Afrique)
Português
ไทย
Indonesia
日本語
بالعربية
Українська
แม้ว่าจะมีประมาณ 30 ประเทศทั่วโลกที่แบนคริปโต แต่ประเทศต่อไปนี้คือประเทศที่มีการห้ามใช้สกุลเงินดิจิทัลอย่างสมบูรณ์
• บังคลาเทศ
• อียิปต์
• อิรัก
• กาตาร์
• จีน
• โคลอมเบีย
• อินโดนีเซีย
• เนปาล
• โมร็อกโก
หากคุณติดตามข่าวสารทั่วโลกเกี่ยวกับตลาดการเงิน คุณคงเคยได้ยินข่าวที่เกี่ยวข้องกับการอภิปรายเกี่ยวกับกฎระเบียบของสกุลเงินดิจิทัลมาบ้างแล้ว และมักจะมีข้อเสนอสุดโต่งจากการอภิปรายเหล่านั้น คือ แนวคิดในการห้ามใช้สกุลเงินดิจิทัลอย่างสิ้นเชิง
แม้ว่าหัวข้อนี้ดูเหมือนจะวนเวียนไปมาในประเทศต่างๆ ประเด็นในรัสเซียก็กลายเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าสินทรัพย์ดิจิทัลถูกห้ามในประเทศดังกล่าวจริงหรือไม่นั่นเป็นเพราะว่าโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะห้ามไม่สำเร็จ และมักจะเกิดขึ้นในประเทศที่ไม่ค่อยได้รับอิทธิพลจากสื่อทั่วโลก
ด้วยเหตุนี้ บทความนี้จึงสรุปสิบประเทศที่แบนคริปโตจริงๆ และสิ่งที่นำไปสู่การตัดสินใจของพวกเขา
บังคลาเทศ
ที่มา: Freem an Law
ด้วยจำนวนประชากรที่ค่อนข้างมาก 160 ล้านคนในปี 2564 บังคลาเทศสั่งห้ามการจัดเก็บและการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลในเดือนมิถุนายน ปีที่แล้ว ธนาคารกลางของบังกลาเทศกำหนดว่าสถาบันการเงินใดๆ ที่ดำเนินการในประเทศควรหยุดให้บริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บ ซื้อ หรือธุรกรรมของสินทรัพย์ดิจิทัล
เหตุผลนั้นง่ายมาก เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลไม่ได้ถูกกฎหมายและไม่ได้ออกโดยธนาคารกลาง ดังนั้นจึงมีความผันผวนและเป็นอันตรายต่อพลเมืองบังกลาเทศเกินกว่าจะเข้าร่วมในกิจกรรมใดๆ รัฐบาลของบังคลาเทศระบุว่าประเทศเป็น “สกุลเงินเสมือน” ได้จัดทำรายงานเกี่ยวกับอันตรายของสกุลเงินดิจิทัลเสนอต่อนักการเมืองและประชากร
อียิปต์
ปัจจุบันอียิปต์มีประชากร 105 ล้านคน และ105 ล้านคนที่ไม่สามารถเก็บ ซื้อ หรือแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลได้เลย
นั่นเป็นเพราะในปี 2018 รัฐบาลท้องถิ่นและธนาคารกลางระบุว่าธุรกรรมคริปโตเคอเรนซีเป็นสิ่งต้องห้าม ซึ่งหมายถึงการต่อต้านอิสลาม ดังนั้นจึงผิดกฎหมาย เป็นการแบนสินทรัพย์ดิจิทัลครั้งแรกโดยใช้ศาสนามาเป็นข้ออ้างเพื่อห้ามการทำธุรกรรมบางอย่าง
คำสั่งนี้ออกโดย Dar al-Ifta ผู้บัญญัติกฎหมายหลักของศาสนาอิสลามในประเทศ และให้เหตุผลคล้ายคลึงกับของบังคลาเทศ คริปโตไม่ได้ออกโดยธนาคารกลางและมีความผันผวนสูง
อิรัก
ด้วยประชากรเพียง 40 ล้านคน อิรักสั่งแบนสกุลเงินดิจิทัล โดยออกแถลงการณ์เมื่อปีที่แล้วห้ามการจัดเก็บและการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างสิ้นเชิง ผู้ที่ใช้สกุลเงินดิจิทัลต่อไปจะถูกลงโทษโดยกฎหมายต่อต้านการฟอกเงิน (AML) และต้องโทษจำคุก
แม้จะมีการห้าม ผู้ใช้คริปโตจำนวนมากและผู้ที่ชื่นชอบโต้แย้งว่ายังคงมีเหมืองขุดในประเทศ เพียงแต่ถูกปกปิดเอาไว้
กาตาร์
การแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 ที่กาตาร์กำลังใกล้เข้ามา แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถใช้สกุลเงินดิจิทัลได้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาในเมืองที่มีประชากร 3 ล้านคน นั่นเป็นเพราะว่าสินทรัพย์ดิจิทัลถูกแบนอย่างเด็ดขาดในกาตาร์ และเพิ่งแบนได้ไม่นาน
ในเดือนธันวาคม 2020 ในช่วงครึ่งแรกของตลาดกระทิงล่าสุด หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินในท้องถิ่นที่รู้จักกันในชื่อ QFCRA ประกาศแบนสกุลเงินดิจิทัลโดยสมบูรณ์ในประเทศยกเว้นสินทรัพย์เสมือนที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์โทเค็น ซึ่งเป็นส่วนที่เฉพาะเจาะจงมากของระบบการเงิน
จีน
เราจะไม่พูดถึงประเทศจีนไม่ได้เลย ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมระดับโลกซึ่งมีประชากรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ราว 1.4 พันล้านคน ได้สั่งห้ามการค้าและการใช้สกุลเงินดิจิทัลย้อนหลังไปถึงปี 2013 อย่างไรก็ตาม ยังคงมีการเคลื่อนไหวในตลาดคริปโตค่อนข้างมาก เนื่องจากผู้ใช้มองหาวิธีแก้ปัญหาเพื่อใช้สกุลเงินดิจิทัลต่อไป
นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่มีการโต้เถียงกันมากที่สุดเรื่องการแบนคริปโต เนื่องจากมีข้อมูลที่ผิดซึ่งเผยแพร่โดยสื่อต่างๆ เมื่อใดก็ตามที่ประเทศออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้ว่าคริปโตจะโดนแบนในประเทศจีนตั้งแต่ปี 2013 และมีการเน้นย้ำกฎระเบียบในปี 2017 และล่าสุดในปี 2021 ทำให้ตลาดคริปโตตื่นตระหนกแม้ว่าจะไม่มีข้อมูลอะไรใหม่ใหม่ก็ตาม
โคลอมเบีย
โคลอมเบียเป็นประเทศเดียวในละตินอเมริกาที่ห้ามใช้สกุลเงินดิจิทัลโดยสิ้นเชิง ในปี 2014 ธนาคารกลางของประเทศระบุว่าสถาบันการเงินไม่สามารถปกป้อง ช่วยลงทุน หรืออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลสำหรับประชากรในท้องถิ่นได้
ไม่ได้หมายความว่าไม่มีใครใช้คริปโต แม้ว่าสถาบันการเงินจะไม่ได้รับอนุญาตให้ให้บริการคริปโต แต่ประชาชนสามารถมีใช้กับผู้ให้บริการจากต่างประเทศได้ กฎระเบียบอาจกำลังมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากธนาคารกลางของโคลอมเบียประกาศเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วว่ากำลังพิจารณาโครงการนำร่องเพื่อเริ่มใช้บริการคริปโตในประเทศ
อินโดนีเซีย
ประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับห้าของโลก อินโดนีเซียเป็นประเทศอันดับต้นที่มีการแบนคริปโต ล่าสุดหน่วยงานด้านการเงินของอินโดนีเซียหรือที่รู้จักในชื่อ OJK ได้สั่งห้ามไม่ให้สถาบันการเงินให้บริการคริปโต ในเดือนมกราคม 2022
ดูเหมือนว่าเหตุผลมักจะเหมือนกันในทุกประเทศ OJK เผยแพร่แถลงการณ์บน Instagram หลังจากการแบน โดยอธิบายว่าแบนสกุลเงินดิจิทัลเนื่องจากความผันผวนและไม่ได้ออกโดยประเทศใดอย่างถูกกฎหมาย
เนปาล
ประเทศที่น่าสนใจที่สุดในโลกก็มีนโยบายต่อต้านคริปโตเคอเรนซีที่เข้มงวดที่สุดเช่นกัน ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2017 เนปาลห้ามการทำธุรกรรม การใช้ และการให้บริการสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมด ในเดือนตุลาคมของปีเดียวกันนั้น กองกำลังต่อต้านการฟอกเงินของเนปาลได้จับกุมบุคคลหลายคนที่ถูกกล่าวหาว่าให้บริการคริปโตภายในอาคารพักอาศัย
โมร็อกโก
โมร็อกโกแบนสกุลเงินดิจิทัลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2017 โดยมีการโต้แย้งว่าสินทรัพย์ดิจิทัลจำเป็นต้องมีการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบและไม่ปลอดภัยที่จะใช้ในประเทศ
ผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยทางการเงินในท้องถิ่นมองว่าเหตุผลนี้มีความคลุมเครือและไร้เหตุผล หากเป็นการผิดกฎหมายเนื่องจากขาดการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบในท้องถิ่น ประเทศก็สามารถกำกับดูแล และสร้างกรอบการทำงานที่ปลอดภัยเพื่อประชาชนใช้และลงทุน
อย่างไรก็ตามการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลยังคงเฟื่องฟูในโมร็อกโก ตามรายงานล่าสุดของ CoinDesk พบว่า ธุรกรรม
Bitcoin ในโมร็อกโกเพิ่มขึ้น 30% ระหว่างปี 2019 ถึง 2020
ผู้เขียน: Gate.io นักวิจัย:
Victor Bastos
-บทความนี้แสดงความเห็นของผู้วิจัยเท่านั้น และไม่ถือเป็นข้อเสนอแนะในการลงทุนใดๆ
-Gate.io ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในบทความนี้ อนุญาตให้โพสต์บทความซ้ำโดยอ้างอิงถึง Gate.io ทั้งนี้ Gate.io จะดำเนินการทางกฎหมายสำหรับการละเมิดลิขสิทธิ์ทุกกรณี